เมื่อ : 12 พ.ค. 2567

 

ธุรกิจแฟรนไชส์เป็นหนึ่งในธุรกิจที่ได้รับความสนใจเป็นอย่างมาก ด้วยความที่เป็นเหมือนธุรกิจสำเร็จรูปพร้อมใช้งานไม่ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ศูนย์ด้วยตัวเอง

.

แต่จะเริ่มบริหารธุรกิจแฟรนไชส์ได้จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการตกแต่งร้าน เช่าสถานที่ และมีค่าธรรมเนียมต่าง ๆ อีกมากมาย สำหรับมือใหม่ที่อยากลงทุนในธุรกิจแฟรนไชส์แต่ยังไม่รู้ว่าต้องมีค่าใช้จ่ายอะไรบ้าง วันนี้เราจะมาแนะนำให้ทุกคนได้รู้จักกันครับ

.

1.ค่าธรรมเนียมแรกเข้า Franchise Fee

เป็นเหมือนค่าธรรมเนียมแรกเข้า ผู้ซื้อแฟรนไชส์จะต้องจ่ายเงินให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ เพื่อซื้อสิทธิ์ในเครื่องหมายการค้า เป็นสิทธิ์ในการขายสินค้าและบริการนั้น ๆ ซึ่งแต่ละแบรนด์ก็มีเงื่อนไขการครอบคลุม Franchise Fees ที่ต่างกันไป โดยค่าธรรมเนียมแรกเข้าจะจ่ายเพียงครั้งเดียวเท่านั้น!

.

2.ค่าธรรมเนียมรายงวด (Royalty Fee)

ผู้ซื้อแฟรนไชส์ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมเพิ่มเติมเป็นรายเดือนหรือรายปีแล้วแต่การตกลงกัน ต้องจ่ายประมาณ 1-3% ของรายได้ โดยเงินส่วนนี้มักจะเก็บไปเพื่อพัฒนาแบรนด์ต่อ ไม่ว่าจะเแป็นเรื่องการส่งเสริมการขาย การขนส่ง พัฒนาสินค้า รวมถึงการโปรโมทอีกด้วย ทั้งหมดก็เพื่อให้แฟรนไชส์ยังคงมีมาตรฐานเดียวกัน

.

3.ค่าการตลาด (Marketing Fee)

ค่าการตลาด เป็นค่าใช้จ่ายที่เราจะต้องจ่ายให้กับเจ้าของแฟรนไชส์ เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้าง Brand Awareness ให้กับลูกค้าได้รับรู้และจดจำแบรนด์ได้ ซึ่งอาจจะชำระเป็นรายเดือน ส่วนต้องจ่ายกี่เปอร์เซ็นต์นั้นก็ขึ้นอยู่กับข้อตกลงของเจ้าของแฟรนไชส์เช่นกัน

.

4.ต้นทุนบริหารจัดการ

หลังจากที่เสียค่าธรรมเนียมแรกเข้าเรียบร้อยแล้ว เราจะต้องบริหารธุรกิจเองทั้งหมด ซึ่งแน่นอนว่าค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าจ้างพนักงาน ค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ เป็นส่วนที่เราต้องรับผิดชอบ ดังนั้นต้องคำนวณค่าใช้จ่ายทั้งหมดให้รอบคอบและจำเป็นต้องมีเงินสำรองด้วยนะ

.

ในการบริหารธุรกิจแฟรนไชส์จำเป็นจะต้องคำนวณค่าใช้จ่ายให้รอบคอบและต้องมีเงินสำรองไว้เผื่อกรณีฉุกเฉินที่อาจจะเกิดขึ้นเมื่อไรก็ได้ แผนสำรอง A B C ต้องมีไว้กันธุรกิจเจ๊งกันด้วยนะครับ

.

.

อ้างอิง : https://url.in.th/.../www.../document/show.php...

.

#ตั้งตัว #TangTua #แฟรนไชส์

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ