เมื่อ : 03 ส.ค. 2567

ธุรกรรมดิจิทัลบูม เอื้อให้บริการโทเคนของวีซ่าเข้ามาสร้างประสบการณ์การชำระเงินที่ราบรื่นให้แก่ผู้บริโภคได้ดียิ่งขึ้น นอกจากจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพของการอนุมัติการชำระเงินแล้ว ยังช่วยลดการฉ้อโกงได้อีกด้วย

วีซ่า เผยข้อมูลที่น่าสนใจว่าเศรษฐกิจดิจิทัลของเอเชียแปซิฟิกมีการปรับตัวเพิ่มขึ้นมากกว่าสองพันล้านเหรียญสหรัฐ ในปี 2567 อันเป็นผลจากการยอมรับการใช้งานบริการวีซ่าโทเคน (Visa Token Service (VTS)) ความสำเร็จนี้ตอกย้ำถึงประโยชน์ของเทคโนโลยีและคุณค่าที่โทเคนนำมาส่งเสริมการค้าดิจิทัล ทั้งส่วนของหน้าร้านและออนไลน์ ด้วยจำนวนโทเคนที่เกิดขึ้นมากถึงหนึ่งพันล้านครั้ง ในเอเชียแปซิกฟิค

VTS คือบริการของวีซ่าที่สร้างรหัสเฉพาะที่เรียกว่า “โทเคน (Token)” เพื่อใช้แทนชุดข้อมูลที่ต้องการความปลอดภัยสูง เช่นตัวเลขหน้าบัตร 16 หลัก ซึ่งมีเพียงวีซ่าเท่านั้นที่จะสามารถปลดล็อกรหัสดังกล่าวได้ โดยวีซ่าโทเคนจะรักษาความปลอดภัยให้กับการชำระเงินของผู้ถือบัตร ด้วยการแปลงข้อมูลบัญชีให้กลายเป็นโทเคน แล้วนำโทเคนไปใช้ในการทำธุรกรรมต่อไป  นอกจากจะเป็นการรักษาข้อมูลส่วนบุคคลแล้ว โทเคนยังช่วยเพิ่มอัตราความสำเร็จในการอนุมัติธุรกรรมชำระเงิน และลดอัตราการฉ้อโกงลงได้อีกด้วย ประโยชน์เหล่านี้จะช่วยเพิ่มประสบการณ์การชำระเงินที่ดียิ่งขึ้นให้แก่ผู้บริโภค

 

นอกจากนี้ โทเคน ยังสามารถยกระดับการประมวลผลการชําระเงิน เพราะสามารถควบคุมและแลกเปลี่ยนข้อมูลได้มากขึ้นในแต่ละธุรกรรม พัฒนาการเทคโนโลยีของวีซ่าลดอัตราที่ธุรกรรมที่ถูกต้องจะถูกปฏิเสธ โดยอ้างอิงจากข้อมูลของวีซ่าพบว่าร้านค้าที่ใช้บริการ VTS สำหรับการชำระเงินแบบดิจิทัล จะมีอัตราความสำเร็จหรือรับอนุมัติการชำระเงินสูงขึ้น โดยเพิ่มขึ้นราวสองพันล้านเหรียญสหรัฐ  ขณะที่อัตราการฉ้อโกงลดลงมากกว่าครึ่ง (58%)

 

“ผู้บริโภค และผู้ประกอบการต่างคาดหวังให้การชำระเงินมีความปลอดภัย ไร้รอยต่อ และโทเคนคือเทคโนโลยีที่จะมาเปลี่ยนเกมในสถานการณ์ปัจจุบัน เพราะนอกจากจะช่วยให้อัตราการอนุมัติธุรกรรมที่ถูกต้องเพิ่มขึ้นแล้ว ยังสามารถลดการฉ้อโกงได้อีกด้วย ปัจจัยเหล่านี้จะทำให้ร้านค้าสามารถใช้เวลาและทรัพยากรอันมีค่าไปกับการพัฒนาธุรกิจและเข้าหาลูกค้าของตนเองได้มากขึ้น ในฐานะเครือข่ายการชำระเงินชั้นนำของโลกเราสนับสนุนให้ร้านค้าใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีที่พิสูจน์แล้วว่าส่งผลตรงต่อยอดขายและผลกำไรของพวกเขา” เพรวิน พิลเลย์ หัวหน้าฝ่ายขายและบริการรับชำระเงินสำหรับร้านค้าของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

 

วีซ่า ยังคงเดินหน้าขยายประสบการณ์การชำระเงินใหม่ๆ เพื่อให้ข้อมูลประจำตัวแบบโทเคนสามารถนำมาใช้งานในสภาพแวดล้อมบนโลกออนไลน์ที่หลากหลาย  ด้วยโทเคนลูกค้าไม่จำเป็นต้องกรอกข้อมูลหมายเลขบัตร 16 หลักของตัวเองทุกครั้งที่ชำระเงินออนไลน์ หรือวุ่นวายกับการอัปเดตข้อมูลบัตรบนหลายๆ แพลตฟอร์มเมื่อถึงเวลาที่บัตรหมดอายุหรือต้องเปลี่ยนใบใหม่ ในทำนองเดียวกัน VTS ยังทำให้มั่นใจได้ว่าร้านค้าสามารถอัปเดตข้อมูลการชำระเงินของลูกค้าได้อย่างปลอดภัยบนแพลตฟอร์มของวีซ่า และยังเป็นวิธีการชำระเงินที่ไร้รอยต่อและราบรื่นสำหรับลูกค้าอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นการชำระเงินผ่านสมาร์ตโฟน อุปกรณ์สวมใส่ หรืออุปกรณ์อัจฉริยะอื่น ๆ

 

“เทคโนโลยีโทเคนของวีซ่า เป็นการปูทางสู่โลกการค้าแห่งอนาคต นวัตกรรมการชำระเงินนี้สามารถปลดล็อกประสบการณ์ใหม่ๆ และส่งมอบความเฉพาะตัวของผู้ถือบัตรได้เหนือกว่าที่บัตรชำระเงินแบบปกติทั่วไปทำได้ และเรามุ่งมั่นที่จะพัฒนานวัตกรรมการชำระเงินอย่างต่อเนื่อง และร่วมมือกับคู่ค้าและร้านค้าในการยกระดับระบบนิเวศการชำระเงินดิจิทัลต่อไป” ทีอาร์ รามจันทรัน หัวหน้าฝ่ายผลิตภัณฑ์และโซลูชันของวีซ่า ประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก กล่าว

 

ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านสู่การทำธุรกรรมด้วยโทเคนของวีซ่า ได้ที่นี่

 

                                     ######

ข่าวอื่นๆ ที่น่าสนใจ