โตชิบากวาดยอดขายโตต่อสองดิจิต ทะยานสู่ปีที่ 55 ด้วยสินค้าใหม่ 52 รุ่น พร้อมดึง ‘หมาก ปริญ’ ร่วมแคมเปญใหญ่ จับตลาด Mid to High
โตชิบา ไทยแลนด์ สร้างสถิติโตสองดิจิตต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงโควิด พร้อมเร่งเครื่องเข้าสู่ปีครบรอบ 55 ปีของบริษัทฯ ด้วยการเปิดตัวทัพสินค้าใหม่ 52 รุ่นจาก 16 หมวด และแคมเปญใหญ่เพื่อรุกชิงส่วนแบ่งเพิ่มในตลาดระดับ Mid to High โดยดึงศิลปินชื่อดัง ‘หมาก ปริญ’ ร่วมเป็น แบรนด์พรีเซนเตอร์
มร.อเล็กซ์ มา รองประธานบริษัท บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงภาพรวมตลาดกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าประเทศไทย (รวมกลุ่มโทรศัพท์มือถือ โน้ตบุ๊ก กล้องถ่ายรูป เครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน และกลุ่มทีวี)ในปี 2566 ว่ามีมูลค่ารวมอยู่ที่ประมาณ 260358 ล้านบาท ทรงตัวเมื่อเทียบกับปี 2565 และถ้ามองในมุมจำนวนสินค้า จะอยู่ที่ประมาณ 44886 ล้านเครื่องต่อปี ลดลงประมาณ 6% แต่ถ้ามองเฉพาะกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้าน (รวมตู้เย็น เครื่องซักผ้า เครื่องปรับอากาศ และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านขนาดเล็ก) ซึ่งมีสัดส่วนประมาณ 30% ของตลาดรวม จะมีมูลค่าตลาดประมาณ 75000 ล้านบาท ซึ่งเติบโตเพิ่มขึ้นจากปี 2565 ราว 10% ด้วยสภาพเศรษฐกิจที่มีการขยายตัวต่อเนื่อง ซึ่งมีปัจจัยหลักมาจากการฟื้นตัวของภาคการท่องเที่ยวและการขยายตัวของการอุปโภคบริโภคและการลงทุนของภาคเอกชน รวมถึงปัจจัยด้านสภาพแวดล้อม อาทิ สภาพอากาศที่ร้อนจัดในหน้าร้อนปีที่ผ่านมา
ในส่วนผลการดำเนินงานของโตชิบา ไทยแลนด์ มร.อเล็กซ์ มา เปิดเผยว่า บริษัทฯ ประสบความสำเร็จเป็นอย่างสูง โดยในปี 2566 ผลประกอบการรวมเติบโตกว่า 14% โดยกลุ่มสินค้าที่สร้างรายได้สูงสุด ได้แก่ สินค้ากลุ่ม ตู้เย็น มีอัตราการเติบโต 4.3% รองลงมา ได้แก่ กลุ่มเครื่องซักผ้า เติบโต 16.1% ในขณะที่กลุ่มสินค้าอื่น เช่น กลุ่ม เตาอบไมโครเวฟ เติบโต 37.5% กลุ่มสินค้าเครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก เติบโต 18.1% กลุ่มสินค้าเกี่ยวกับน้ำ เติบโต 14.8% และกลุ่มเครื่องปรับอากาศ เติบโตสูงถึง 127.6% และตลอด 4 ปีที่ผ่านมา (ปี 2562-2566) เราสามารถรักษาการเติบโตเฉลี่ย 4 ปี ได้ถึง 11.1%
“สำหรับปี 2567 นี้ ซึ่งเป็นปีที่โตชิบา ไทยแลนด์ ดำเนินธุรกิจครบรอบ 55 ปี เราตั้งเป้าเติบโตกว่า 20% โดยสินค้ากลุ่มตู้เย็น ตั้งเป้ารุกตำแหน่งใหม่ ให้มีส่วนแบ่งการตลาดขึ้นเป็นอันดับ 2 ด้วยสัดส่วน 15% ในขณะที่กลุ่มเครื่องซักผ้ารักษาตำแหน่งอันดับ 3 แต่เพิ่มส่วนแบ่งการตลาดเป็น 10% กลุ่มเตาอบไมโครเวฟ ชิงตำแหน่งอันดับ 1 ด้วยส่วนแบ่งการตลาด 29% สำหรับกลยุทธ์ปีนี้ เรามีแผนการเปิดตัวสินค้าใหม่มากถึง 52 รุ่น โดยเน้นสินค้ากลุ่ม Mid to High เพื่อรองรับดีมานด์ที่มากขึ้น ในขณะเดียวกันขยายช่องทางการจัดจำหน่าย โดยเน้นขยายจุดวางสินค้ากลุ่มไฮเอนด์มากขึ้น รวมไปถึงการสร้าง Experience Store ที่เน้นการโชว์สินค้ากลุ่ม Smart Solution ซึ่งเป็นเทรนด์ของคนยุคใหม่ที่รักความสะดวกสบาย ใช้เทคโนโลยีมาเป็นส่วนหนึ่งในการควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าผ่านมือถือ สำหรับในส่วนการตลาด เราทุ่มงบเพิ่มขึ้นมาก ไม่ใช่แค่เพื่อการเฉลิมฉลอง 55 ปี แต่เป็นการสร้างภาพลักษณ์แบรนด์ให้สมาร์ทยิ่งขึ้น โดยเปิดตัวพรีเซนเตอร์ที่จะมาเสริมความแข็งแกร่งให้แบรนด์ยิ่งขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้ารุ่นใหม่ นอกจากนี้ยังมีแผนการตลาดอีกมากมายที่ช่วยขับเคลื่อนกิจกรรมส่งเสริมการขาย การสื่อสารการตลาด และกิจกรรมเพื่อสังคม และในส่วนของพนักงานขายหน้าร้าน เรามีแผนเพิ่มจำนวนและพัฒนาคุณภาพพนักงานเพื่อให้พร้อมสำหรับดีมานด์ที่เติบโตขึ้น และส่วนสุดท้ายที่โตชิบาให้ความสำคัญ คืองานบริการ เพราะเราให้ความสำคัญกับลูกค้า โดยมีแผนเพิ่มช่องทางพิเศษสำหรับให้บริการสินค้ากลุ่ม Hi-end รวมไปถึงการอำนวยความสะดวกให้ลูกค้าโดยเพิ่มทีมการให้บริการที่บ้าน (Onsite service) เพิ่มขึ้น
นางสาวธัญปภัสส์ อริยะวรวัฒน์ ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวเสริมถึงกลยุทธ์ทางการตลาดว่า เนื่องในโอกาสที่โตชิบา ไทยแลนด์ ครบรอบ 55 ปี เราทุ่มงบการตลาดเพื่อสร้างแบรนด์มากขึ้นกว่าเดิมถึง 3 เท่า เพื่อสร้างการรับรู้แบรนด์ สร้างความเชื่อมั่น และการเข้าถึงผู้บริโภค โดยได้เปิดตัวแคมเปญ “55 ปีของความใส่ใจ…ไม่มีเรื่องไหนเล็กเกินไปสำหรับเรา” ซึ่งได้เชิญคุณหมาก ปริญ สุภารัตน์ พระเอกสุดหล่อเข้ามาเป็นพรีเซนเตอร์ โดยคาดว่านอกจากจะสามารถเข้าถึงฐานลูกค้าหลักเดิมของ โตชิบาได้แล้ว ยังสามารถช่วยโตชิบาขยายไปยังกลุ่มคนรุ่นใหม่ได้ดีขึ้นด้วย ทั้งนี้มีแผนโปรโมทแคมเปญแบบครบวงจร 360 องศา โดยได้จัดทำวิดีโอพิเศษที่มีคุณหมาก เป็นตัวแทนโตชิบาในการดูแลทุกท่าน ผ่านชีวิตสามีแห่งชาติ ที่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าโตชิบาในการทำงานบ้าน และใส่ใจในรายละเอียดเล็กๆ ซึ่งวิดีโอชุดนี้จะถูกเผยแพร่ทางทีวี และสื่อออนไลน์ นอกจากนี้ ยังมีสื่อนอกบ้าน (Out of Home) สื่อรถไฟฟ้า สื่อสิ่งพิมพ์ ณ จุดขาย รวมไปถึงการทำ คอนเทนต์ดิจิทัลและโซเชียลมาร์เก็ตติ้งอีกมากมาย อีกทั้งมีการเสริมทัพด้วย KOLs ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ สื่อวิทยุ รวมไปถึงโรดโชว์ต่างๆ เพื่อสร้างประสบการณ์ใช้งานจริง ณ ร้านค้า ตัวแทนจำหน่ายและย่านชุมชน
นอกจากกิจกรรมการตลาดข้างต้น เราเตรียมพร้อมสำหรับซัมเมอร์ที่จะมาถึง โดยส่งแคมเปญขอบคุณผู้บริโภค “โตชิบาแจกครั้งใหญ่ ลุ้นรับฟรีตู้เย็น 55 เครื่อง มูลค่ากว่า 1.5 ล้านบาท” โดยจะเริ่มแคมเปญตั้งแต่ 1 มีนาคม ถึง 30 เมษายน 2567 นอกจากนี้ บริษัทฯมีแผนการปรับโฉมหน้าร้านค้าให้ดูทันสมัย และสร้าง Experience Store อีก 10 แห่งในปีนี้ เพื่อให้ผู้บริโภคได้เข้าสัมผัส และทดลองใช้ผลิตภัณฑ์กลุ่มที่เป็น Smart Solution เชื่อมต่อการใช้งานผ่านสมาร์ทโฟนได้ อาทิ ตู้เย็น เครื่องซักผ้า ไมโครเวฟ เครื่องล้างจาน เป็นต้น
และนอกจากกิจกรรมการตลาดดังกล่าว โตชิบายังใส่ใจในกิจกรรมเพื่อสังคม โดยมีแผนทำกิจกรรมฉลอง 55 ปี กับ 5 กิจกรรม ประเดิมกิจกรรมแรก ส่งเสริมคนไทยให้รักสุขภาพ ด้วยการจัดงานวิ่ง Toshiba Run ที่จังหวัดสุโขทัย เมื่อเดือนพฤศจิกายน 2566 ที่ผ่านมา ต่อด้วยกิจกรรมส่งเสริมงานศิลปะ กับงาน TOSHIBA / EYP#7 ซึ่งเป็นโครงการบ่มเพาะศิลปินรุ่นใหม่ และงาน โตชิบา ศิลปกรรมนำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต ครั้งที่ 29 ซึ่งทั้งสองงานจะจัดแสดง ณ หอศิลป์ กรุงเทพฯ ระหว่างเดือนมกราคม - เมษายน 2567 สำหรับกิจกรรมที่สาม จะเน้นเรื่องการพัฒนากลยุทธ์เจ้าสัว ครั้งที่ 10 (L-NET 10) ซึ่งเป็นโครงการฝึกอบรมความรู้ให้ผู้แทนจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้ารุ่นใหม่ เพื่อส่งเสริมให้รักและเติบโตในธุรกิจตนเอง และอีก 2 แคมเปญสุดท้าย คือ แคมเปญโตชิบารักษ์โลก เชิญชวนลูกค้าและผู้แทนจำหน่ายร่วมปลูกป่า เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้โลก และแคมเปญ โตชิบาเลิฟมิวสิค ซึ่งตั้งใจส่งเสริมเยาวชนให้รักดนตรี มีเวทีการแสดง นายเอกดนัย ตันติภูมิอมร ผู้จัดการฝ่ายกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวถึงกลยุทธ์ผลิตภัณฑ์ว่า ในปีนี้ เรามีแผนขยายสินค้าใหม่มากถึง 52 รุ่นจาก 16 หมวดสินค้า ประกอบด้วยสินค้ากลุ่มตู้เย็น ตู้แช่ จำนวน 14 รุ่น กลุ่มเครื่องซักผ้า เครื่องอบผ้า และเครื่องซักอบ รวม 15 รุ่น กลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าในครัว รวม 13 รุ่น และกลุ่มเครื่องใช้ในบ้าน อีก 10 รุ่น ซึ่งจะเน้นไปที่สินค้ากลุ่มที่เป็น Mid to High สินค้า IOT และสินค้าที่มีขนาดใหญ่มากขึ้น
ตัวอย่างสินค้าไฮไลท์ ได้แก่ ตู้เย็นมัลติดอร์ 4 ประตู และตู้เย็นไซด์บายไซด์ 2 ประตู ที่มีความต้องการของตลาดสูงขึ้นในทุกปี ซึ่งนอกจากจะดีไซน์สวยงามจนได้รับรางวัลการันตีจาก Good Design Award และ IF Design Award แล้ว ยังมาพร้อมคุณสมบัติเด่น Pure Air จากผลการทำรีเสิร์ช เราใส่อาหารทุกอย่างเข้าตู้เย็น ไม่ว่าจะเป็นอาหารทะเล อาหารแห้ง ของหมัก ของดอง หรือแม้กระทั่งทุเรียน จึงเป็นความท้าทายของผลิตภัณฑ์ตู้เย็นที่ต้องกำจัดกลิ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงได้คิดค้นระบบกำจัดกลิ่นใหม่ล่าสุด Pure Air ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่จะปล่อยประจุออกมา ทั้งในช่องแช่แข็งและช่องแช่เย็น เพื่อดูดซับกลิ่น ช่วยยับยั้งแบคทีได้ ภายใน 60 นาที ซึ่งเป็นเทคโนโลยีใหม่ที่มาทดแทนระบบกรอง Filter แบบเดิมๆ ซึ่งประสิทธิภาพการกรองในแบบเดิม ควรเปลี่ยนแผ่นกรองทุก 6 เดือน ถึง 1 ปี แต่ในตู้เย็น ส่วนใหญ่ไม่มีใครเปลี่ยน ด้วยระบบ Pure Air แผ่นกรองนี้ จะมีอายุการใช้งานยาวนานมากกว่าระบบกำจัดกลิ่นแบบ Filter ให้คุณสะดวก มั่นใจ ในคุณภาพ ความสดและกลิ่นของอาหาร
นอกจากตู้เย็นไซส์ใหญ่ข้างต้น โตชิบายังมีแผนเปิดตัวตู้เย็นมัลติดอร์ 4 ประตูดีไซน์ใหม่ สีขาวฟูจิ หรูหรา ภายใต้ชื่อ ซีรีส์ Japandi ซึ่งเป็นการผสมผสานสไตล์สแกนดิเนเวีย ที่เน้นโทนสีวอร์ม อบอุ่น และความมินิมอล พิถีพิถันจากญี่ปุ่นได้อย่างลงตัว นอกจากดีไซน์ของเครื่องที่สวยงาม จนได้รับรางวัลการันตีจากทั้ง Good Design และ IF Design Award แล้ว ตัวเครื่องยังถูกออกแบบมาให้ฟิตเข้าได้กับบิ้วอินแบบแนบสนิท ไม่ต้องเหลือพื้นที่ด้านหลังตู้ เพื่อระบายความร้อนแบบตู้เย็นทั่วไป โดยได้ออกแบบระบบระบายความร้อนที่ด้านล่างตัวเครื่องแทน นอกจากนี้หน้าบานตู้เย็นเป็นแบบกระจก เพิ่มความหรูหรา และเคลือบสารถึง 10 ชั้น แข็งแรงทนทาน ลดรอยขีดข่วน ทำความสะอาดง่าย และสีไม่เหลือง แม้จะใช้งาน หรือโดนแดดเป็นเวลานาน มือจับออกแบบด้วยโทนสีวอลนัท ให้ความอบอุ่น มาพร้อมไฟออโตเซนเซอร์ ให้ความสว่าง ความสะดวก และความสวยงามยามปิดไฟบ้าน หรือกลางคืน โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยระบบทำน้ำแข็งขนาดใหญ่ถึง 1.45 กิโลกรัม สามารถทำน้ำแข็งอัตโนมัติได้รวดเร็วกว่าตู้เย็นทั่วไปถึง 2 เท่า โดยทำน้ำแข็ง 100 กรัมได้ภายใน 60 นาที พิเศษยิ่งขึ้นด้วยช่องแช่ผักผลไม้ Hydrofresh ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยกับเก็บความชื้น ความเย็นที่เหมาะสมแก่ผักผลไม้แต่ละประเภท และอีกหนึ่งส่วนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้คือ ช่องแช่เนื้อสัตว์ที่ออกแบบมาให้สามารถกำหนดอุณหภูมิให้เหมาะสมกับเนื้อของคุณ อาทิ เลือก Pro aging สำหรับเนื้อปลา ซึ่งต้องการอุณหภูมิเพียง -1 องศา เพื่อไม่ทำลาย texture ของเนื้อปลา เพิ่มกรดไขมัน ทำให้เนื้อปลาสดอร่อย ส่วนเนื้อสัตว์ที่ไม่ต้องการแช่แข็ง เน้นการเก็บไม่นาน ไม่อยากดีฟรอส ให้เลือก Soft freeze ซึ่งเป็นการเก็บรักษาอาหารที่อุณหภูมิประมาณ -3 องศา และช่องสุดท้าย deep freeze จะเป็นการเก็บอาหารแช่แข็งทั่วไป แต่เก็บที่อุณหภูมิ -30 องศา ซึ่งจะให้ช่วยทำให้เกล็ดน้ำแข็งที่เคลือบ จะมีความละเอียดกว่า ไม่ทำลาย Texture และคุณค่า ของเนื้อ ซึ่งเหมาะแก่การเก็บรักษาวัตถุดิบที่ใช้ทำอาหารที่มีความพรีเมียมและซีเรียส อย่างเนื้อวากิว เป็นต้น และท้ายสุดตู้เย็นดังกล่าว เชื่อมต่อสมาร์ทโฟน ควบคุมการทำงานของตู้เย็นได้ ผ่านแอป TSmartLife
สำหรับเครื่องซักผ้า โตชิบาตั้งใจเผยโฉมเครื่องซักผ้าฝาหน้า และเครื่องซักอบเจเนอเรชันใหม่ 3 ซีรีส์ ยังมาพร้อมพาแนลแผงควบคุมแบบจอสี ระบบสัมผัส เพื่อให้เข้าใจและใช้งานง่าย นอกจากนี้ ตัวถังยังมีขนาดใหญ่พิเศษ ด้วยขนาด 535 มิลลิเมตร ทำให้แรงในการปั่นผ้ามากขึ้นและทำให้ผ้ายับน้อยลง นอกจากถังใหญ่แล้ว ช่องใส่ผ้ายังกว้างขึ้น ช่วยให้ใส่ผ้านวมสะดวกมากขึ้น ส่วนในเรื่องการทำความสะอาดผ้า ซีรีส์นี้มาพร้อมเทคโนโลยีใหม่ที่อัพเกรดขึ้นจากเดิม เป็น Ultra Fine Bubble Pro ที่จะปล่อยประจุไฟฟ้า สร้างฟองที่ละเอียดและเล็กกว่าเดิม ช่วยแทรกซึมเข้าสู่เส้นใยผ้า ขจัดคราบได้ดียิ่งขึ้น โดยเฉพาะคราบมัน คราบเหลืองของปกคอเสื้อ ช่วยให้ผ้าเหมือนใหม่อยู่เสมอ และไฮไลท์ที่สำคัญอีกตัวคือ Aroma เพราะเราให้ความสำคัญกับเรื่องกลิ่นหอม เราจึงพัฒนาโปรแกรมให้ลูกค้าเลือก เพิ่มระยะเวลาการปรับผ้านุ่มให้ยาวขึ้น เพื่อช่วยให้ผ้าหอมขึ้นและยาวนานกว่าปกติ
หม้อหุงข้าวระบบดิจิทัล รุ่นใหม่ล่าสุด RC-18DRSTH(H) ความจุ 1.8 ลิตร เป็นหม้อหุงข้าวโฉมใหม่ ดีไซน์ทันสมัย สี black grey สามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส มีฟังก์ชัน Tasty Adjustment สามารถเลือกความนุ่มของข้าวได้ 3 ระดับ ตั้งแต่ หุงข้าวมาตรฐาน ข้าวนุ่มขึ้น และข้าวเรียงเม็ดมากขึ้น มีระบบทำความร้อน 3 ทิศทาง แบบ 3D Heating กระจายความร้อนทั่วถึง ทำให้ข้าวฟูนุ่ม อร่อย น่าทาน หม้อด้านในหนาพิเศษ 3.5 มิลลิเมตร ช่วยรักษาความหอมและความอร่อยของข้าวและเคลือบด้วยบินโชตัน (Japanese Binchotan) ถ่านของญี่ปุ่น ทำให้ง่ายต่อทำความสะอาด ข้าวไม่ติดหม้อ
เครื่องล้างจานอัตโนมัติ รุ่น DW-15F6(G)-TH ซึ่งเป็นเครื่องล้างจานแบบ 2 in 1 คือจะติดตั้งแบบ บิวท์อิน หรือจะวางแบบ Freestanding ก็ได้ ดีไซน์หรูหรา สามารถล้างภาชนะได้หลากหลาย มากถึง 15 เซ็ต หรือประมาณ 162 ชิ้น โดยสามารถแบ่งประเภทจานและภาชนะที่จะล้างเป็นโซนบนหรือล่างได้ มีเทคโนโลยี Turbo Heating Dryer ที่อบภาชนะให้แห้งสนิทหลังจากล้างเสร็จ พร้อมระบบ DryStorage ที่แม้ผ่านไป 3 วันก็ไม่เป็นคราบน้ำ ทำให้รู้สึกล้างเสร็จ ภาชนะสะอาดใหม่เสมอ สามารถทำอุณหภูมิสูงถึง 72°C เพื่อทำความสะอาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมด้วย UV-LED ยับยั้งเชื้อแบคทีเรียและการสะสมของเชื้อโรคบนภาชนะ ทำงานเงียบเพียง 47 เดซิเบล ด้วยมอเตอร์ที่ทนทาน รับประกัน 10 ปี สะดวกกับไลฟ์สไตล์คนยุคใหม่ ประหยัดน้ำกว่าการล้างจานแบบปกติถึง 90% ใช้งานสะดวกผ่าน TSmartLife สามารถตั้งเวลาทำงานล่วงหน้าได้ตั้งแต่ 1-24 ชั่วโมง
เตาอบไฟฟ้าอัจฉริยะ 13 ฟังก์ชัน รุ่น TL2-SAC25GZC(WS) ความจุ 25 ลิตร รุ่นใหม่พิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 55 ปีของโตชิบา ไทยแลนด์ ด้วยเครื่องสีแดง สวยงาม สร้างสรรค์เมนูสุขภาพด้วยการอบลมร้อน ทำเมนูทอดโดยไม่ใช้น้ำมัน ทำความร้อนเร็วและทั่วถึงด้วยตัวทำความร้อนถึง 6 ตัว และพัดลมกระจายลมร้อน ปรับอุณหภูมิได้สูงสุด 230°C ทั้งยังใช้งานง่ายด้วยหน้าจอ LCD ขนาด 4.5 นิ้ว เต็มอิ่มกับ 13 เมนูพิเศษ ได้แก่ ทอด
ไร้น้ำมัน ปิ้ง อบ ย่าง พิซซ่า คุกกี้ เบเกิล หมักแป้งขนมปัง เป็นต้น สามารถสั่งงานและดูสูตรอาหารมากมายผ่านแอป TSmartLife online menu ที่รวมสูตรอาหารพร้อมขั้นตอนการทำอย่างละเอียด กว่า 200 เมนู นางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โตชิบา ไทยแลนด์ จำกัด กล่าวว่า “ปี 2567 นี้ โตชิบา ไทยแลนด์กำลังก้าวเข้าสู่ปีแห่งความสำเร็จในการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยมาครบ 55 ปี ซึ่งตลอดเวลาที่ผ่านมา บริษัทฯ ให้ความสำคัญเป็นที่สุดกับเรื่องการจัดหาและนำเสนอผลิตภัณฑ์และนวัตกรรมมาตรฐานประเทศญี่ปุ่นในราคาที่จับต้องได้ เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการของผู้บริโภค รวมถึงพิถีพิถันในเรื่องบริการหลังการขายที่ดี เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจและได้รับความสะดวกสบายที่สุด โตชิบา ไทยแลนด์ ต้องขอขอบคุณสังคมไทย ลูกค้า พาร์ทเนอร์ตัวแทนจำหน่าย และพนักงานทุกคน ที่ให้ความไว้วางใจในบริษัทฯ และแบรนด์ ‘TOSHIBA’ มาโดยตลอด บริษัทฯ จะยังคงมุ่งมั่นที่จะ ‘นำสิ่งที่ดีสู่ชีวิต’ ซึ่งประกอบด้วยคุณค่าทุกประการที่คนไทยคู่ควรจะได้รับจากบริษัทเทคโนโลยีชั้นนำของโลก ทั้งความสะดวกสบายยิ่งขึ้น จากนวัตกรรมอันทันสมัย อย่าง IOT ความยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ความปลอดภัยและเสริมสร้างสุขภาพที่ดี ไปจนถึงความประหยัดและความคุ้มค่าในการเป็นเจ้าของ นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังจะสร้างสรรค์โอกาสพิเศษต่างๆ เพื่อตอบแทนความไว้วางใจของลูกค้าผ่านแคมเปญและโปรโมชันใหญ่ที่จะมีตามมาอย่างต่อเนื่อง”