เมื่อ : 15 ก.ย. 2566

ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ไอแบงก์)
ได้รับเกียรติให้เป็นพันธมิตรเชิงกลยุทธ์ร่วมจัดงานสัมมนา Halal
Sector Forum 2023 หรือ HSF2023 ภายใต้แนวคิด “Resiliency of
Halal Sectors Towards National Socio-Economy”
การปรับตัวของธุรกิจฮาลาลในยุคพลวัตสู่เศรษฐกิจเพื่อสังคมแห่งชาติ
จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13-14 กันยายน 2566 โดย Halal Development
Corporation Berhad (HDC)
ซึ่งเป็นหน่วยงานเพื่อการพัฒนาและส่งเสริมอุตสาหกรรมฮาลาล
ภายใต้กระทรวงการลงทุน การค้า และอุตสาหกรรม (MITI)
ประเทศมาเลเซีย
วัตถุประสงค์ของการจัดงานครั้งนี้เพื่ออัพเดทความรู้เกี่ยวกับ
เมกะเทรนด์ระดับโลก นวัตกรรม โอกาสการค้าการลงทุน
และการจ้างงาน
ตลอดจนแนวทางการเสริมสร้างอุตสาหกรรมฮาลาลเพื่อการเติบโตใน
อนาคต โดยในงานสัมมนาครั้งนี้ ดร.ทวีลาภ ฤทธาภิรมย์
กรรมการและผู้จัดการ ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย
ได้รับเชิญขึ้นเวทีเพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์ถึงบทบาทและการดำเนิ
นกิจการของธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่
างยั่งยืน ในหัวข้อ การส่งเสริมการลงทุนฮาลาลควบคู่ ESG
ซึ่งมีผู้ประกอบการ SMEs หน่วยงานกำกับ นักวิจัย นักธุรกิจ
ในอุตสาหกรรมฮาลาล
ตลอดจนผู้สนใจร่วมรับฟังจากนานาประเทศราว
500 คน ณ ศูนย์แสดงสินค้าและนิทรรศการนานาชาติมาเลเซีย
(MITEC) กรุงกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย
“การดำเนินกิจการตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมา
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยได้ผ่านความท้าทายมากมายในการเ
ป็นสถาบันการเงินเพียงแห่งเดียวในประเทศไทยที่ให้บริการทางการเงิ
นตามหลัก ชะรีอะฮ์ (หลักศาสนาอิสลาม) ธนาคารมีตลาดเฉพาะ
(Niche Market) ที่ชัดเจน
บริหารงานอย่างสมดุลระหว่างการดำเนินพันธกิจในฐานะธนาคารของ
รัฐ และการดำเนินธุรกิจให้เติบโต
รัฐบาลไทยให้การสนับสนุนธนาคารมาโดยตลอดจากการถือหุ้นเพิ่มทุ
น ปัจจุบันกระทรวงการคลังถือหุ้นธนาคารเกือบ 100%
ทั้งนี้เพื่อให้พี่น้องมุสลิมในประเทศไทยได้มีธนาคารที่ฮาลาลในการทำ
ธุรกรรมทางการเงินอย่าง
ถูกต้องตามบทบัญญัติของศาสนา
ธนาคารมีเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ
โดยสาขาประมาณครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมดอยู่ทางภาคใต้
รองรับลูกค้าที่ส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิม
พร้อมด้วยบริการทางการเงินพื้นฐานที่ครบครัน อาทิ เงินฝาก สินเชื่อ
ประกันตะกาฟุล และอื่นๆ” ดร.ทวีลาภ กล่าว
ในช่วงสัมมนา ดร.ทวีลาภ
ได้นำเสนอและแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการนำหลักการ ESG
มาปรับใช้ สรุปได้ว่า
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยมีหลักชะรีอะฮ์เป็นทุน
จึงมีการวางวิสัยทัศน์ที่จะเป็น
“สถาบันการเงินที่ให้บริการตามหลักชะรีอะฮ์ เพื่อความยั่งยืน”การที่ธนาคารให้บริการตามหลักชะรีอะฮ์

จึงทำให้มีการใช้แนวความคิดเกี่ยวกับ ESG
ซึ่งสอดคล้องกับหลักชะรีอะฮ์มาปรับใช้ก่อนที่แนวความคิดเกี่ยวกับ
ESG จะเกิดขึ้น ซึ่งเมื่อเอ่ยถึงหลักชะรีอะฮ์และ ESG จะเห็นได้ว่าทั้ง
2 หลักการ มีแนวคิดร่วมกันในเรื่องของความโปร่งใส ความยุติธรรม
และเป้าหมายในการสร้างผลลัพธ์ที่ดีทางสังคม
หากเรานำหลักชะรีอะฮ์และ ESG
ที่ส่งเสริมกันมาปรับใช้ในการประกอบธุรกิจก็จะทำให้ธุรกิจมีความแข็
งแกร่งและยั่งยืนได้
โดยในช่วงปีที่ผ่านมา
ธนาคารได้ให้การสนับสนุนโครงการและกิจกรรมที่คำนึงถึงหลักการด้
าน ESG มาอย่างต่อเนื่อง ตัวอย่างเช่น
ด้านสิ่งแวดล้อม
ธนาคารประกาศนโยบายไม่สนับสนุนผู้ประกอบธุรกิจทำลายสิ่งแวดล้
อมตั้งแต่ปี 2565
และให้การสนับสนุนสินเชื่อแก่ผู้ประกอบธุรกิจพลังงานหมุนเวียนแทน
พลังงานจากเชื้อเพลิงฟอสซิล ตัวอย่างเช่น
โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์
และโรงไฟฟ้าชีวมวลที่ทำพลังงานหมุนเวียนโดยมีส่วนร่วมกับชุมชนใ
นพื้นที่อย่างยั่งยืน
นอกจากนี้ธนาคารยังปล่อยสินเชื่อให้แก่ผู้จัดจำหน่ายรถจักรยานยนต์
พลังงานไฟฟ้า และรถบรรทุกเคลื่อนย้ายรถยนต์ใช้พลังงานธรรมชาติ
เพื่อลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกและมลพิษต่างๆ
มีการอนุมัติสินเชื่ออัตราพิเศษให้แก่โรงเรียนเอกชนสอนศาสนาสำหรั
บการติดตั้งแผงโซลาร์ซึ่งสามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าต่อเดือนได้อย่
างคุ้มค่าด้านสังคม การบริหารจัดการซะกาต

(การบริจาคตามหลักศาสนาอิสลาม)
เป็นหนึ่งภารกิจที่ระบุไว้ในพระราชบัญญัติธนาคารอิสลามแห่งประเท
ศไทย ถือเป็นเครื่องมือในการขจัดความยากจนและลดความ
เหลื่อมล้ำในสังคมมุสลิม
โดยธนาคารให้บริการลูกค้าที่มีฐานะต้องจ่ายซะกาต
กระจายไปสู่บุคคลฐานะขัดสนและสมควรได้รับซะกาตเพื่อยกระดับคุ
ณภาพชีวิตให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน สินเชื่อชุมชนซื่อสัตย์
เป็นอีกหนึ่งโครงการที่ธนาคารเข้าไปทำงานร่วมกับผู้นำชุมชน
เพื่อให้คนในชุมชนที่ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์แต่ไม่สามารถเข้
าถึงสถาบันการเงินในระบบปกติได้
ให้มีแหล่งเงินพัฒนาอาชีพให้ดีขึ้นโดยไม่ต้องอาศัยหนี้นอกระบบ
นอกจากนี้ธนาคารยังได้สนับสนุนสินเชื่อโรงพยาบาลใน 3
จังหวัดชายแดนใต้ เพื่อช่วยยกระดับการสาธารณสุขในพื้นที่
รองรับสังคมผู้สูงอายุ
และให้ประชาชนในพื้นที่และใกล้เคียงได้รับการรักษาพยาบาลที่มีมา
ตรฐานในอัตราที่เข้าถึงได้
ด้านธรรมาภิบาล
ธนาคารบริหารจัดการธุรกิจโดยให้ความสำคัญกับความต้องการและค
วามคาดหวังของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียสำคัญต่อการดำเนินงานของธนาค
าร ธนาคารกำหนดนโยบาย ทิศทาง
และแนวทางในการพัฒนาองค์กรเพื่อให้ผู้บริหารและพนักงานดำเนิน
งานได้อย่างมีเป้าหมายที่ชัดเจน
สร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์และพัฒนาบริการใหม่ๆ เพื่อตอบโจทย์ลูกค้า
มีการบริหารความเสี่ยงและควบคุมภายในที่มีประสิทธิภาพ
เพื่อลดผลกระทบเชิงลบต่อผู้ถือหุ้นตลอดจนหน่วยงานกำกับดูแล
และสานความสัมพันธ์กับชุมชนเพื่อให้การดำเนินงานราบรื่น
นอกจากนี้ธนาคารยังสร้างวัฒนธรรมองค์กรที่โปร่งใสมีนโยบายต่อต้านทุจริตคอร์รัปชัน พร้อมรับผิด

และมีคุณธรรมในการทำงาน โดยด้าน ธรรมาภิบาล
ธนาคารถือว่าสำคัญที่สุดในหลัก ESG
เพราะถ้ามุ่งเน้นความมีธรรมาภิบาลแล้ว
การปฏิบัติงานด้านสังคมและสิ่งแวดล้อมก็จะทำได้ไม่ยาก
ด้านเศรษฐกิจฮาลาลในประเทศไทย
มีศักยภาพการเติบโตอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นตลาดอาหาร
ฮาลาล การท่องเที่ยวฮาลาล การท่องเที่ยวเชิงการแพทย์
การแต่งกายมุสลิม และตลาดการเงินการลงทุนตามหลักชะรีอะฮ์
ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทยเป็นสถาบันการเงินที่ให้แหล่งทุนฮาล
าลที่จะทำให้กระบวนการผลิตมีมาตรฐานฮาลาลตั้งแต่ต้นน้ำจนถึงปลา
ยน้ำ โดยได้มีการทำงานร่วมกับหลายองค์กร เช่น
คณะกรรมการกลางอิสลามแห่งประเทศไทย
เพื่อสนับสนุนผู้ประกอบการให้ได้รับเครื่องหมายมาตรฐานฮาลาล
นอกจากนี้ธนาคารยังได้ลงนามความร่วมมือกับธนาคารเพื่อการส่งออ
กและนำเข้าแห่งประเทศไทย
และสถาบันฮาลาลของมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์
โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมการวิจัยและพัฒนาสินค้าฮาลาลของผู้ประ
กอบการสู่ความเป็นเลิศและสามารถยกระดับมาตรฐานสู่การส่งออกยัง
ตลาดเป้าหมาย
เพื่อรองรับความต้องการที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นต่อเนื่อง
“จากสถานการณ์โลกที่มีความผันผวนและส่งผลต่อสภาวะเศรษฐกิจตล
อดเวลา
ผู้ประกอบการควรวางแผนที่จะปรับเปลี่ยนแนวทางการดำเนินกิจการใ
นแบบของตัวเอง ควบคู่กับการนำหลักการ ESG มาปรับใช้
เพื่อให้องค์กรเติบโตในระยะยาวอย่างยั่งยืนต่อไป” ดร.ทวีลาภ
กล่าวทิ้งทาย