อธิบดีอรมน ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ส่งเสริม SMEs ไทย ชี้ภาคธุรกิจต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน แนวคิด ESG จะช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่การค้าที่ยั่งยืน อธิบดีอรมน ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ส่งเสริม SMEs ไทย ชี้ภาคธุรกิจต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน แนวคิด ESG จะช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่การค้าที่ยั่งยืน
อธิบดีอรมน ร่วมแสดงวิสัยทัศน์ ส่งเสริม SMEs ไทย ชี้ภาคธุรกิจต้องเผชิญความท้าทายหลายด้าน แนวคิด ESG จะช่วยให้ธุรกิจก้าวสู่การค้าที่ยั่งยืน..รับเทรนด์การประกอบธุรกิจโลก อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ร่วมแสดงวิสัยทัศน์บนเวที ‘Strategies for Thriving in the Global Green Market for Thai SMEs’ ชี้นับแต่นี้ภาคธุรกิจไทยต้องเผชิญความท้าทายหลากหลายด้าน แนวคิด ESG เป็นทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้ภาคธุรกิจก้าวสู่การค้าที่ยั่งยืน ที่มาพร้อมเทรนด์การประกอบธุรกิจที่ต้องมีส่วนร่วมรับผิดชอบต่อสังคม พร้อมก้าวข้ามทุกอุปสรรคในอนาคต นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “เมื่อวันที่ 3 กันยายน 2567 ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ให้ร่วมแสดงวิสัยทัศน์เกี่ยวกับการค้าอย่างยั่งยืนภายในงาน “Strategies for Thriving in the Global Green Market for Thai SMEs” ณ โรงแรมอมารี กรุงเทพ ซึ่งจัดโดยหอการค้าร่วมต่างประเทศในประเทศไทย (JFCCT) สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) มูลนิธิเอเชีย(Asia Foundation) และได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงการต่างประเทศและการค้าของออสเตรเลีย มีเป้าหมายเพื่อให้ความรู้และแลกเปลี่ยนมุมมองในการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนแก่ SMEs ทั้งของไทยและต่างประเทศ โดยมีผู้เข้าร่วมงานกว่า 200 ราย อธิบดีอรมน กล่าวว่า วันนี้โลกกำลังเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและรุนแรงมากกว่าที่เคย และกำลังเผชิญกับความท้าทายที่หลากหลายรูปแบบ เช่น การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ภาวะโลกร้อน ที่ทำให้เกิดภัยพิบัติทางธรรมชาติที่รุนแรง ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในรูปแบบต่างๆ ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ระหว่างประเทศมหาอำนาจ และการแย่งชิงทรัพยากรธรรมชาติตลอดจนพื้นที่ทางธุรกิจ ซึ่งปัจจัยเหล่านี้ส่งผลให้ประเทศต่างๆ ทั่วโลกออกกฎกติกา ระเบียบทางการค้าใหม่ๆ ที่เชื่อมโยงถึงเรื่องความยั่งยืนครอบคลุมประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม ความรับผิดชอบต่อสังคม และการกำกับดูแลที่มีธรรมภิบาล โปร่งใส ตรวจสอบได้ ด้วยเหตุนี้ ประเทศไทยและภาคธุรกิจซึ่งรวมถึง SMEs ต้องมีการปรับตัวและเตรียมความพร้อมเพื่อมิให้สูญเสียโอกาสทางธุรกิจ รักษาความสามารถทางการแข่งขัน และขับเคลื่อนธุรกิจได้ในระยะยาว เครื่องมือหนึ่งที่จะช่วยให้ SMEs สามารถรับมือกับความท้าทายดังกล่าว คือ ‘ESG’ ซึ่งเป็นกรอบแนวคิดเชิงกลยุทธ์ในการดำเนินธุรกิจที่ไม่ได้มุ่งหวังเพียงผลกำไรเท่านั้น แต่ยังคำนึงถึง 3 มิติ คือ 1) สิ่งแวดล้อม (Environmental) การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างมีประสิทธิภาพ 2) สังคม (Social) การบริหารทรัพยากรบุคคลขององค์กร ลูกค้า ชุมชน และผู้ที่เกี่ยวข้องตลอดห่วงโซ่อุปทานอย่างเป็นธรรมและเท่าเทียม 3) ธรรมาภิบาล (Governance) กลไกดำเนินการภายในองค์กรและการปฏิบัติต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย (stakeholders) อย่างโปร่งใสและตรวจสอบได้ กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีการดำเนินงานหลากหลายรูปแบบที่สอดคล้องกับหลักการ ESG ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการ SME ไทยทั่วประเทศมีความเข้มแข็ง แข่งขันได้ และดำเนินธุรกิจให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน โดยโครงการที่สำคัญ เช่น ‘SMART Local Me-D (สมาร์ทโลคัล มีดี)’ ที่พัฒนายกระดับผลิตภัณฑ์ชุมชนให้เป็นที่รู้จักของผู้บริโภคทั้งไทยและต่างประเทศ โดยใช้วัตถุดิบและภูมิปัญญาท้องถิ่นช่วยสร้างอาชีพสร้างรายได้ให้กับคนในชุมชน ผสมผสานกับนวัตกรรมเชิงสร้างสรรค์ และการเชื่อมโยงด้านการตลาด นอกจากนี้ กรมฯ ยังให้ความสำคัญกับการส่งเสริมและสร้างมาตรฐานด้านธรรมภิบาลธุรกิจให้กับภาคธุรกิจของไทย รวมถึง SME โดยร่วมมือกับผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความเชี่ยวชาญด้านการส่งเสริมธุรกิจให้มีธรรมาภิบาล ร่วมกันทำหน้าที่กำหนดเกณฑ์การตรวจประเมินไว้ 6 หลัก ได้แก่ 1) หลักนิติธรรม 2) หลักคุณธรรม 3) หลักความโปร่งใส 4) หลักการมีส่วนร่วม 5) หลักความรับผิดชอบ และ 6) หลักความคุ้มค่า ซึ่งธุรกิจที่ผ่านเกณฑ์การประเมินฯ จะได้รับโล่และหนังสือรับรองมาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า เพื่อเป็นการเชิดชูเกียรติและเผยแพร่ผลสัมฤทธิ์ของกิจกรรมสร้างธุรกิจ SME เข้าสู่เกณฑ์มาตรฐานธรรมาภิบาลธุรกิจที่ได้ดำเนินการอย่างต่อเนื่องจนเป็นที่ประจักษ์ ESG มิใช่แค่กระแสความนิยมเรื่องความยั่งยืนเท่านั้น แต่เป็นบรรทัดฐานของธุรกิจในอนาคตที่จำเป็นต้องมี ซึ่งนอกจากจะทำให้ธุรกิจมีความเข้มแข็งจากภายในแล้ว ยังทำให้ธุรกิจมีความยืดหยุ่นสามารถปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลง ลดผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นจากความเสี่ยงด้านต่างๆ ส่งผลให้ธุรกิจมีการเติบโตได้ในระยะยาวและมีความยั่งยืนในอนาคต” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ กองส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจ กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ โทร 0 2547 5970 สายด่วนกรมพัฒนาธุรกิจการค้า 1570 และ www.dbd.go.th #SuperDBD #กรมพัฒนาธุรกิจการค้า #กระทรวงพาณิชย์