“กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง” พลิกโฉมสู่การเติบโต มุ่งสร้างเครือข่ายอันดับ 2 ของไทย “ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล”
กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง หรือ RAM Hospital Group หนึ่งในเครือข่ายโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำของประเทศไทย เติบโตอย่างแข็งแกร่งและต่อเนื่อง ด้วยประสบการณ์กว่า 37 ปี และพันธมิตรโรงพยาบาลกว่า 46 แห่งทั่วประเทศ มุ่งสร้างเครือข่ายเป็นอันดับ 2 ของไทย ที่ให้บริการรักษาพยาบาลมาตรฐานสูงในทุกสาขา ด้วยเทคโนโลยีทันสมัยและความเชี่ยวชาญจากทีมแพทย์เฉพาะทาง เดินหน้าสานต่อเจตนารมณ์ผู้ก่อตั้ง ภายใต้วิสัยทัศน์ “ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล” ให้คนไทยเข้าถึงบริการทางการแพทย์มาตรฐานสากล คาดการณ์การเติบโต 40% จากปีก่อนหน้า ด้วยแรงหนุนการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในโรงพยาบาลพันธมิตร ลุยปรับภาพลักษณ์รองรับความต้องการคนรุ่นใหม่ ที่หันมาใส่ใจดูแลสุขภาพแบบองค์รวมมากขึ้น ซึ่งถือเป็นสถาบันทางการแพทย์ครบวงจรของภูมิภาค ที่พร้อมดูแลสุขภาพในทุกมิติของชีวิต ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เน้นเพียงการรักษาโรค พร้อมร่วมสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพ (Healthcare Ecosystem) ที่ครอบคลุม เพื่อสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทย ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ของภูมิภาค (Medical Hub) ที่ดึงดูดผู้ป่วยจากทั่วโลก
นพ. พิชญ สมบูรณสิน ประธานกรรมการบริหารบริษัท กลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ตลอดระยะเวลา 37 ปีที่ผ่านมา กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงได้พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่ง (Resilience) ในการยืนหยัดผ่านวิกฤตการณ์ต่างๆ โดยเฉพาะวิกฤตโควิด-19 ด้วยรากฐานที่มั่นคงเราไม่เพียงแต่ดูแลผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ยังสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่องจากความเป็นเลิศทางการแพทย์ ที่เรามุ่งมั่นพัฒนาศักยภาพการรักษาพยาบาลอย่างไม่หยุดยั้ง โดยเฉพาะการจัดตั้งศูนย์ความเป็นเลิศทางการแพทย์ (Centers of Excellence) ที่หลากหลายและทันสมัย อาทิ ศูนย์โรคหัวใจ ที่เรามีความเชี่ยวชาญอย่างยิ่งในการรักษาหลอดเลือดหัวใจอุดตันโดยไม่ต้องผ่าตัด การรักษาหัวใจเต้นผิดจังหวะ รวมไปถึงการฟื้นฟูสมรรถภาพหัวใจและปอด อันเป็นการดูแลรักษาผู้ป่วยแบบครบวงจร อีกทั้งยังมีศูนย์สมองและระบบประสาท และศูนย์ผ่าตัดส่องกล้อง หู คอ จมูก ที่มีชื่อเสียงมาอย่างยาวนาน
กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงยังนำเทคโนโลยีขั้นสูงมายกระดับบริการทางการแพทย์ เพื่อผลลัพธ์ในการรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำ ปลอดภัย เช่น เทคโนโลยีหุ่นยนต์ช่วยผ่าตัด (Robotic Surgery) การผ่าตัดแผลเล็ก (Minimally Invasive Surgery) และบริการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) รวมถึงการพัฒนาแอปพลิเคชันและบริการออนไลน์ที่เข้าถึงผู้ป่วยได้โดยตรง เพื่อดูแลสุขภาพผู้ป่วยได้แม้จะอยู่นอกโรงพยาบาล พร้อมขยายบริการสู่ด้านการดูแลเชิงป้องกัน (Preventive) และสุขภาพองค์รวม (Wellness) เพื่อตอบโจทย์แนวโน้มสุขภาพของโลกยุคใหม่ ขณะเดียวกันการขยายเครือข่ายพันธมิตรเพื่อสร้างสรรค์พลังร่วม (Synergy) ด้วยการร่วมลงทุนกับโรงพยาบาลพันธมิตรชั้นนำทั่วประเทศ อาทิ โรงพยาบาลวิภาราม โรงพยาบาลธนบุรี โรงพยาบาลสินแพทย์ และโรงพยาบาลวิภาวดี ซึ่งล้วนเป็นโรงพยาบาลมาตรฐานสากล (Joint Commission International: JCI) มาตรฐาน AACI และมาตรฐาน HA ทำให้มีจุดแข็งระบบการส่งต่อผู้ป่วยภายในเครือข่าย ที่ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการดูแลอย่างครบวงจรและตรงจุด ศักยภาพนี้ทำให้กลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง พร้อมก้าวสู่การเป็น Medical Hub ที่สำคัญของไทย ซึ่งปัจจุบันเรามีผู้ป่วยต่างชาติที่ให้ความไว้วางใจเข้ารักษา โดยเฉพาะในโรงพยาบาลเชียงใหม่ราม และโรงพยาบาลสุขุมวิท สะท้อนถึงความพร้อมในการรองรับผู้ป่วยนานาชาติ
“เป้าหมายของเรามากกว่าแค่การเป็นศูนย์การแพทย์ครบวงจร แต่คือการยกระดับมาตรฐานสาธารณสุขของไทย พร้อมมุ่งเน้นการดูแลคุณภาพชีวิต (Well-being) ผ่านการแพทย์เชิงป้องกัน ส่งเสริม และฟื้นฟู เพื่อให้คนไทยมีสุขภาพแข็งแรงและมีอายุยืนยาวขึ้น ด้วยความพร้อมของเครือข่ายโรงพยาบาลพันธมิตรชั้นนำ 46 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนเตียงรวมกว่า 7800 เตียง เราเชื่อมั่นว่าการก้าวไปข้างหน้าครั้งนี้ และการพัฒนาศักยภาพอย่างต่อเนื่อง จะเป็นฟันเฟืองสำคัญในการขับเคลื่อนประเทศไทย สู่การเป็นศูนย์กลางทางการแพทย์ (Medical Hub) ชั้นนำของภูมิภาคที่มีศักยภาพดึงดูดผู้เข้ารับบริการจากทั่วโลก อันเป็นอีกหนึ่งอุตสาหกรรมที่สร้างรายได้และชื่อเสียงให้กับประเทศไทย” นพ.พิชญ กล่าว
ดร.ฤกขจี กาญจนพิทักษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มบริษัท โรงพยาบาลรามคำแหงและบริษัทในเครือ กล่าวว่า เรายังคงยึดมั่นในวิสัยทัศน์ของผู้ก่อตั้งที่ต้องการดูแลประชาชนเป็นสำคัญ เพื่อให้บริการผู้ป่วยทุกกลุ่มทุกภูมิภาคทั่วประเทศไทย ซึ่งครอบคลุมสิทธิหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ 30 บาท ประกันสังคม และผู้ชำระเงินเอง ภายใต้วิสัยทัศน์ที่มุ่ง “ตอบทุกความต้องการ เชี่ยวชาญทุกการดูแล” โดยมีการผสมผสานมุมมองทางธุรกิจเพื่อการเติบโตอย่างยั่งยืน นอกจากนี้เรายังคงเดินหน้าลงทุนในลักษณะ Brownfield M&A และ Partnership โดยเน้นการเข้าไปลงทุนในบริษัทย่อย เพื่อเสริมศักยภาพและสร้างการเติบโตอย่างยั่งยืน โดยล่าสุดได้เพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลธนบุรี (Thonburi Hospital Group) ทำให้ปัจจุบันกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงมีเครือข่ายโรงพยาบาลรวม 46 แห่งทั่วประเทศ มีจำนวนเตียงรวม 7800 เตียง นับเป็นผู้นำกลุ่มโรงพยาบาลเอกชนอันดับ 2 ของประเทศไทย ทั้งนี้ คาดการณ์การเติบโตทั้งเครือในปีนี้ 40% จากปีก่อนหน้า
เพื่อรองรับการเติบโตของอุตสาหกรรมสุขภาพ และกลุ่มผู้เข้ารับบริการคนรุ่นใหม่ที่ให้ความสำคัญกับการดูแลสุขภาพมากขึ้น เราจึงวางกลยุทธ์ภายใต้ยุทธศาสตร์ “RAM 2.0 The New Era of Ram Hospital Group” ต่อยอดจากความเชื่อของผู้ก่อตั้ง เข้ากับแนวทางการดำเนินงานยุคใหม่ ได้แก่ Clinical Excellence ยกระดับขีดความสามารถทางการแพทย์ ผ่านเทคโนโลยีและบุคลากรระดับแนวหน้า Network Synergy สร้างความร่วมมืออย่างเป็นระบบในเครือข่าย Asset Optimization เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการสินทรัพย์ Strategic Expansion เดินหน้าการลงทุน การควบรวมกิจการ (M&A) ผ่านการลงทุนในบริษัทย่อย ESG Commitment ขับเคลื่อนการเติบโตอย่างยั่งยืน ด้วยความรับผิดชอบต่อผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทุกฝ่าย
“การพัฒนาอย่างต่อเนื่องของกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหง ตั้งอยู่บนวิสัยทัศน์ที่ชัดเจน เพื่อตอบโจทย์ทุกความต้องการด้านสุขภาพ ผ่านความเชี่ยวชาญ และนวัตกรรมทางการแพทย์ เครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศช่วยให้ผู้เข้ารับบริการเข้าถึงบริการทางการแพทย์อย่างทั่วถึง ส่งมอบประสบการณ์การรักษาที่รวดเร็ว แม่นยำ และสอดคล้องกับวิถีชีวิตยุคใหม่ อันเป็นส่วนหนึ่งของการสร้างระบบนิเวศด้านสุขภาพ (Healthcare Ecosystem) ร่วมสนับสนุนเป้าหมายของประเทศไทย ในการก้าวสู่การเป็นศูนย์กลางการแพทย์ระดับภูมิภาค (Medical Hub) ที่สามารถดึงดูดผู้เข้ารับบริการได้จากทั่วโลก” ดร. ฤกขจี กล่าว
นายทีโบ สปิทาคิส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ฝ่ายการตลาด โรงพยาบาลรามคำแหง กล่าวว่า ปัจจุบันสัดส่วนผู้ป่วยของกลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงกว่า 95% เป็นคนไทย ทั้งนี้ ภายใต้การ Rebranding เพื่อขยายฐานผู้รับบริการกลุ่มคนรุ่นใหม่ ผู้ป่วยต่างชาติที่มองหาการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม โดยเฉพาะการดูแลเชิงป้องกันและส่งเสริมสุขภาพ (Preventive & Wellness) ก่อนป่วยมากขึ้น รวมถึงรองรับการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างสังคมสูงอายุ เราจึงมุ่งเน้นปรับเพิ่มการให้บริการที่เปลี่ยนผ่านจาก Sick Care สู่ Health Care ด้วยการนำเอาเทคโนโลยีดิจิทัลและนวัตกรรมการแพทย์ (Digital Health & Innovation) อาทิ AI Telemedicine Big Data และอุปกรณ์ตรวจวัดสุขภาพ มาเพิ่มประสิทธิภาพการวินิจฉัย การรักษา และการให้บริการที่ไร้รอยต่อ
“ตลอดหลายปีที่ผ่านมากลุ่มโรงพยาบาลรามคำแหงเติบโตต่อเนื่อง ทั้งในแง่ของจำนวนโรงพยาบาลในเครือข่ายที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และการเป็นพันธมิตรกับโรงพยาบาลชั้นนำต่างๆ รวมถึงการขยายสู่ระดับภูมิภาค ดังนั้น การเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ในครั้งนี้ จึงเป็นการสร้างอัตลักษณ์ใหม่ที่แข็งแกร่ง ที่สะท้อนตัวตนของเราทั้งในด้าน Caring Trusted Expertise และ Collaborative ผ่านความหลากหลายของเครือข่ายที่เรามี เพื่อรองรับความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ที่มีความคาดหวังสูงขึ้น ทั้งในด้านคุณภาพการรักษาโรคซับซ้อน เทคโนโลยีการแพทย์ที่ทันสมัย และประสบการณ์ที่ดีจากการเข้ารับบริการ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันไม่ได้ต้องการแค่รักษาเมื่อเจ็บป่วย แต่ต้องการการดูแลสุขภาพแบบองค์รวม ตั้งแต่การป้องกัน การส่งเสริมสุขภาพ ไปจนถึงการฟื้นฟู การเดินหน้าปรับภาพลักษณ์ใหม่ของเรา จึงถูกออกแบบมาเพื่อสื่อสารว่าเราพร้อมเป็น สถาบันทางการแพทย์ครบวงจรของภูมิภาค ที่พร้อมดูแลสุขภาพในทุกมิติของชีวิต ไม่ใช่โรงพยาบาลที่เน้นเพียงการรักษาโรค” นายทีโบ กล่าวสรุป
Ramkhamhaeng Hospital Group Transforms for Growth
Building Towards Thailand’s #2 Network
”The Complete Expert for Your Desired Health”
Ramkhamhaeng Hospital Group (RAM Hospital Group) one of Thailand’s leading private hospital networks has demonstrated robust and continuous growth. With over 37 years of experience and a network of more than 46 partner hospitals nationwide the Group aims to establish itself as Thailand’s second-largest network offering high-standard medical care across all specialties. This is achieved by leveraging modern technology and the expertise of specialized medical teams. Moving forward RAM Hospital Group continues to uphold its founder’s vision: ”Addressing Every Need Mastering Every Care” thereby ensuring Thai people have access to international-standard medical services. RAM Hospital Group anticipates a 40% growth from the previous year driven by increased shareholding in its partner hospitals. It is actively rebranding to meet the demands of the younger generation who are increasingly focused on holistic health. This strategic move positions the Group as a comprehensive regional medical institution prepared to
Dr. Pitchaya Somburanasin M.D. Chairman of Group Executive Committee Ramkhamhaeng Hospital Public Company Limited stated ”Over the past 37 years Ramkhamhaeng Hospital Group has demonstrated its resilience in navigating various crises particularly the COVID-19 pandemic. Built on a solid foundation we have not only effectively cared for patients but also achieved continuous growth through our unwavering commitment to medical excellence. This commitment is evident in our relentless development of treatment capabilities especially through the establishment of diverse and modern Centers of Excellence. For instance our Cardiology Center offers exceptional expertise in treating blocked coronary arteries non-surgically managing arrhythmias and providing comprehensive cardiac and pulmonary rehabilitation thereby ensuring holistic patient care. Additionally we feature long-established and renowned Centers for Brain and Nervous System and Endoscopic ENT Surgery.”
Ramkhamhaeng Hospital Group also leverages advanced technology to elevate medical services ensuring rapid accurate and safe treatment outcomes. Examples include Robotic Surgery Minimally Invasive Surgery and Telemedicine services. Furthermore we develop applications and online platforms to directly reach patients enabling us to provide healthcare even outside the hospital setting. We are also expanding our services into preventive care and holistic wellness to address evolving global health trends.
Concurrently we are expanding our partner network to create synergy through joint ventures with leading hospitals nationwide. These include Viphapram Hospital Thonburi Hospital Synphaet Hospital and Vibhavadi Hospital all of which adhere to international standards such as Joint Commission International (JCI) AACI and HA certifications. This robust network strengthens our internal patient referral system ensuring patients receive comprehensive and precisely targeted care. This collective capability positions Ramkhamhaeng Hospital Group to become a significant Medical Hub in Thailand. Currently international patients confidently seek treatment with us particularly at Chiangmai Ram Hospital and Sukhumvit Hospital reflecting our proven readiness to accommodate a global clientele.
”Our ambition extends beyond merely being a comprehensive medical center; it is to elevate Thailand’s public health standards. We are dedicated to fostering well-being through preventive health-promotional and rehabilitative medicine aiming for a healthier and longer-lived Thai population. With a network of 46 leading partner hospitals nationwide boasting over 7800 beds we are confident that this strategic advancement and continuous capability development will be a crucial driving force in propelling Thailand towards becoming a leading regional Medical Hub attracting patients from around the world. This in turn represents another industry that generates revenue and enhances Thailand’s global reputation” added Dr. Pitchaya.
Dr. Rukkagee Kanjanapitak Group Chief Executive Officer Ramkhamhaeng Hospital Group and its affiliated companies explained ”We remain committed to our founder’s vision of prioritizing public welfare aiming to serve all patient groups across every region of Thailand. This commitment extends to those covered by the 30-baht National Health Security scheme Social Security and self-paying patients. Under the guiding vision ”Addressing Every Need Mastering Every Care” we integrate a business perspective to ensure sustainable growth.”
Furthermore we continue to pursue investments through Brownfield projects Mergers & Acquisitions (M&A) and Partnerships with a specific focus on investing in subsidiaries to enhance capabilities and foster sustainable growth. Most recently we increased our shareholding in Thonburi Hospital Group bringing Ramkhamhaeng Hospital Group’s total network to 46 hospitals nationwide with a combined capacity of 7800 beds. This strategically positions us as the second-largest private hospital group in Thailand. We anticipate a 40% growth for the entire network this year compared to the previous year.
To accommodate the growth of the healthcare industry and the new generation of service users who increasingly prioritize health we have devised a strategy under ”RAM 2.0 The New Era of Ram Hospital Group.” thoughtfully builds upon the founder’s beliefs and integrates modern operational approaches specifically Clinical Excellence: Elevating medical capabilities through cutting-edge technology and leading personnel. Network Synergy: Fostering systematic collaboration within the network. Asset Optimization: Enhancing asset management efficiency. Strategic Expansion: Advancing investments and M&A through subsidiary investments. ESG Commitment: Driving sustainable growth with responsibility towards all stakeholders.
”The continuous development of Ramkhamhaeng Hospital Group is founded on a clear vision to address all healthcare needs through expertise and medical innovation. Our comprehensive nationwide network ensures widespread access to medical services for all users delivering fast accurate treatment experiences aligned with modern lifestyles. This initiative is integral to building a robust Healthcare Ecosystem that supports Thailand’s national goal of becoming a regional Medical Hub capable of attracting patients from around the world” Dr. Rukkagee concluded
Thibault Spithakis Chief Marketing Officer Ramkhamhaeng Hospital noted ”Currently over 95% of Ramkhamhaeng Hospital Group’s patients are Thai nationals. Though this rebranding initiative aims to expand our service base attracting younger generations and international patients who seek holistic healthcare – particularly focusing on Preventive & Wellness care before illness strikes. It also seeks to accommodate the changing demographics of an aging society. Consequently we are focused on enhancing our services transitioning from a ’Sick Care’ model to a comprehensive ’Health Care’ approach. This involves integrating cutting-edge digital health and medical innovation technologies (Digital Health & Innovation) such as AI Telemedicine Big Data and health monitoring devices to improve diagnostic efficiency optimize treatment and ensure seamless service delivery.”
”Over the years Ramkhamhaeng Hospital Group has experienced continuous growth both in the number of network hospitals nationwide and through strategic partnerships with leading hospitals including significant regional expansion. Therefore this rebranding initiative is designed to forge a strong new identity that reflects our core values of Caring Trusted Expertise and Collaborative underscored by the diversity of our network. This strategy aims to meet the heightened expectations of modern consumers who demand not only high-quality treatment for complex diseases and advanced medical technology but also an excellent overall service experience. Today’s consumers no longer simply seek treatment when ill; instead they desire comprehensive holistic healthcare – encompassing prevention health promotion and rehabilitation. Our new brand image is thus meticulously designed to communicate that we are ready to be a full-spectrum Regional Medical Institution poised to care for every dimension of life rather than merely a hospital focused solely on disease treatment.” Mr. Spithakis summarized.
For more information or to follow Ramkhamhaeng Hospital’s activities please visit www.ram-hosp.co.th and Facebook at www.facebook.com/ramhospital.
###