เมื่อ : 11 ก.ย. 2567

 

    กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รวมพลครั้งใหญ่ ระดมสมองเจ้าหน้าที่ทุกระดับกำหนดกรอบการทำงานปี 2568 ตั้งเป้าขับเคลื่อนให้เป็นองค์กรภาครัฐดิจิทัลที่ร่วมสร้างความเข้มแข็งภาคธุรกิจ เน้นคิดกลยุทธ์ใหม่ๆ ใช้เทคโนโลยีอำนวยความสะดวกประชาชนให้ได้รับบริการที่ดีและรวดเร็วยิ่งขึ้น พร้อมเร่งสร้างความเท่าเทียมในองค์กรกระตุ้นให้เกิดความรักความสามัคคี ไม่มีเธอ..ไม่มีฉัน..มีแต่เรา ปรับโครงสร้างเป็นบริหารงานภาครัฐแนวใหม่เพื่อให้การบริหารราชการมีความคล่องตัว ภาคธุรกิจ/ประชาชนเกิดความพึงพอใจ ขณะเดียวกัน จะให้ความสำคัญต่อการรับฟังความคิดเห็นและเสียงสะท้อนจากภาคธุรกิจและภาคประชาสังคม เพื่อนำมาปรับปรุง ปรับใช้ และพัฒนาการทำงานให้ตอบโจทย์ตรงตามความต้องการผู้เกี่ยวข้องมากที่สุด
            นางอรมน ทรัพย์ทวีธรรม อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “ปีงบประมาณ 2567 กำลังจะสิ้นสุดลงวันที่ 30 กันยายน 2567 กรมพัฒนาธุรกิจการค้าได้เตรียมแผนการปฏิบัติงานทุกด้านสำหรับปีงบประมาณ 2568 ที่กำลังจะมาถึง โดยมีการระดมความคิดเห็นจากเจ้าหน้าที่กรมฯ ทุกระดับ (Team Building) เพื่อกำหนดกรอบการทำงานสำหรับปี 2568 และปีถัดไป ด้วยเห็นถึงความสำคัญของบุคลากรทั้งองค์กรที่ได้พบเจอสถานการณ์ การให้บริการผู้ที่เกี่ยวข้องจากภาคส่วนต่างๆ และการปฏิบัติงานที่มีความแตกต่างกัน ทำให้มีมุมมองที่หลากหลาย จึงได้เปิดเวทีให้บุคลากรกรมฯ ได้แสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนประสบการณ์ พร้อมให้ข้อเสนอแนะแก่ฝ่ายบริหารเพื่อนำมาวิเคราะห์และกำหนดเป็นนโยบาย/แผนปฏิบัติงานให้สอดคล้องและตอบโจทย์ตรงตามความต้องการของภาคธุรกิจและประชาชน
            ปี 2568 จะเป็นปีที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้ามีการเปลี่ยนแปลงหลายด้าน โดยจะให้ความสำคัญต่อการรับฟังความคิดเห็นและเสียงสะท้อน (Social Listening) จากผู้ที่เกี่ยวข้องและผู้รับบริการทุกภาคส่วนมากขึ้น เพื่อให้เกิดการปรับปรุง ปรับใช้ และพัฒนา ซึ่งจะทำให้งานบริการมีกรอบการปฏิบัติงานที่มาจากความต้องการของผู้ใช้บริการโดยตรง ต้องมีการรับฟังเสียงจากภาคธุรกิจและประชาชนอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากพฤติกรรมผู้บริโภคมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาตามการปรับเปลี่ยนของสถานการณ์ทั้งในและต่างประเทศ ดังนั้น เสียงสะท้อนดังกล่าวจะทำให้หน่วยงานภาครัฐสามารถสร้างคอนเท้นท์เพื่อการสื่อสารที่ดีมีประโยชน์และนำไปต่อยอดบริหาราชการให้มีความทันสมัยอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยให้องค์กรเกิดการพัฒนา ขจัดอุปสรรคที่จะส่งผลต่อการให้บริการประชาชน ทำให้การปฏิบัติงานมีความคล่องตัวและเอื้อต่อการแข่งขันของประเทศ
            อธิบดีอรมน กล่าวต่อว่า จะมีการปรับโครงสร้างเป็นการบริหารงานภาครัฐแนวใหม่เพื่อให้การบริหารราชการมีความคล่องตัว ภาคธุรกิจและประชาชนเกิดความพึงพอใจสูงสุด เน้นให้บริการเชิงรุกที่มีปฏิสัมพันธ์โดยตรงระหว่างภาครัฐและประชาชน และมีการให้บริการแบบเบ็ดเสร็จอย่างแท้จริง พัฒนาระบบการจัดการข้อร้องเรียนให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น พร้อมเสริมสร้างวัฒนธรรมการบริการที่เป็นเลิศ พัฒนารูปแบบการบริการที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเป็นผู้เลือกรูปแบบการรับบริการที่เหมาะสมกับความต้องการของตนเอง นำเทคโนโลยีดิจิทัลสมัยใหม่เข้ามาเสริมการปฏิบัติงานให้มีความรวดเร็วมากขึ้น รวมทั้ง สร้างความสมดุลระหว่างการบริหารราชการทั้งแนวดิ่งและแนวราบ คือ นอกจากการปฏิบัติงานตามลำดับขั้นการบังคับบัญชา (แนวดิ่ง) แล้ว ต้องคำนึงถึงการบูรณาการการทำงานกับทุกภาคส่วน (แนวราบ) ทั้งภายในและภายนอกองค์กรในรูปแบบของการมีส่วนร่วมในทุกขั้นตอนการทำงาน เพื่อสร้างความเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา ตลอดจนสร้างการทำงานในลักษณะเครือข่าย (Networking) มากขึ้น เพื่อให้เกิดความหลากหลายและมีแนวคิดใหม่ๆ ที่ช่วยพัฒนาแวดวงราชการ วงการธุรกิจ และสร้างความพึงพอใจให้ประชาชน นอกจากนี้ จะเคร่งครัดต่อการใช้ทรัพยากรภาครัฐที่ได้รับจัดสรรอย่างมีวินัยและประหยัด เน้นการทำงานเพิ่มขึ้นโดยใช้ทรัพยากรน้อยลง เพื่อเพิ่มขีดความสามารถการบริหารจัดการงบประมาณองค์กรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
         ภารกิจสำคัญอีกประการหนึ่ง คือ การสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในองค์กร เพื่อกระตุ้นให้เกิดความรักความสามัคคี ร่วมมือกันปฏิบัติราชการพร้อมให้บริการภาคธุรกิจและประชาชนอย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่มีการแบ่งแยกเธอ-ฉัน จะมีแต่คำว่า ‘เรา’ ซึ่งความเสมอภาคจะทำให้บุคลากรเห็นความสำคัญของตัวเอง คำนึงถึงการทำงานร่วมกัน พร้อมเป็นส่วนหนึ่งที่ร่วมขับเคลื่อนกรมฯ ให้ก้าวไปข้างหน้ามุ่งสู่เป้าประสงค์ที่จะเป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำด้านบริการดิจิทัล ทั้งนี้ ‘ความเท่าเทียม’ สามารถยึดโยงเข้ากับหลัก ‘ความเป็นธรรม’ นำไปสู่การปฏิบัติที่มีมาตรฐาน ช่วยให้ความแตกต่างได้รับการแก้ไข เกิดความเสมอภาค ไม่เลือกปฏิบัติ ทุกคนอยู่ภายใต้กฎระเบียบเดียวกัน นอกจากนี้ ยังช่วยลดความเหลื่อมล้ำภายในองค์กรและสังคม ทำภาพรวมการทำงานของเจ้าหน้าที่มีความสุข ส่งผลต่อไปสู่การให้บริการภาคธุรกิจและประชาชนที่ดีมีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้นตามไปด้วย
                ทั้งนี้ คณะผู้บริหารและเจ้าหน้าที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้าทุกคน พร้อมสร้างสรรค์และพัฒนากรมฯ ให้เป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ สร้างบุคลากรให้มีความเป็นมืออาชีพ เพื่อสร้างความเข้มแข็งให้ทั้งองค์กรและผู้ประกอบธุรกิจ พร้อมนำการให้บริการรูปแบบใหม่ๆ มาช่วยอำนวยความสะดวกภาคธุรกิจและประชาชนอย่างต่อเนื่อง โดยมุ่งหวังให้ทุกภาคส่วนที่เข้ามาติดต่อ ประสานงาน และใช้บริการกรมฯ เกิดความพึงพอใจสูงสุด ตอบสนองความต้องการผู้ใช้บริการด้วยระบบงานที่มุ่งผลสัมฤทธิ์ และใช้มาตรฐานการให้บริการที่เท่าเทียม เป็นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้สอดรับกับหลักการบริหารกิจการบ้านเมืองและสังคมที่ดี (Good Governance) โดยนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาเสริมการทำงานทุกขั้นตอน ส่งผลให้วิสัยทัศน์กรมฯ ‘เป็นองค์กรภาครัฐชั้นนำด้านบริการดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ภายในปี 2570 และสร้างพลังขับเคลื่อนธุรกิจไทยให้ยั่งยืนด้วยนวัตกรรม’ บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามที่ได้กำหนดไว้” อธิบดีอรมน กล่าวทิ้งท้าย

 

#SuperDBD
#กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
#กระทรวงพาณิชย์

 

*******************************************